Elizabeth Street Cosmetics Beauty เคล็ด (ไม่) ลับ กับครีมทาหน้า เพื่อเพิ่มความอ่อนเยาว์ฉบับคน 40+

เคล็ด (ไม่) ลับ กับครีมทาหน้า เพื่อเพิ่มความอ่อนเยาว์ฉบับคน 40+

ครีมทาหน้า

            เมื่อผู้หญิงเริ่มเข้าสู่วัย 40 ปี สิ่งที่มักจะเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดคือ “ผิวหน้า” ที่เริ่มหย่อนคล้อย ไม่ตึงกระชับ มีริ้วรอย ฝ้า กระ และรอยด่างดำมากขึ้น จนกลายเป็นความหนักใจครั้งใหญ่ แต่รู้ไหมว่าในช่วงเปลี่ยนผ่านของช่วงวัยแบบนี้ หากดูแลผิวอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยลดหรือชะลอปัญหาเหล่านั้นลงได้ และทำให้เราดูอ่อนกว่าวัยได้อีกด้วย

สำหรับเคล็ด (ไม่) ลับ ในการดูแลผิวเพื่อชะลอวัยที่ทำได้ง่ายที่สุด คือ การใช้ครีมทาหน้าเป็นประจำทุกวัน ดังนี้

เตรียมผิวให้พร้อมด้วยครีมทาหน้าชิ้นแรก

หลังล้างหน้าสะอาด ให้ใช้ครีมทาหน้าหรือโลชั่นที่มีสรรพคุณลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความกระจ่างใส และความชุ่มชื้น เป็นขั้นตอนแรกทั้งตอนเช้าและก่อนนอน เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นต่อไป โดยทาลงบนหน้าและลำคอเบา ๆ และหลีกเลี่ยงผิวรอบดวงตา

ซึ่งส่วนประกอบที่หากมีในครีมประเภทนี้แล้วจะยิ่งช่วยเพิ่มคุณประโยชน์ให้ดียิ่งขึ้น จะเป็นพวก Hibiscus (พู่ระหง) ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว Harungana ดูแลผิวพรรณแบบล้ำลึก Ginseng (โสม) ช่วยถนอมความอ่อนเยาว์ Oat (ต้นข้าวโอ๊ต) ที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนนุ่ม พร้อมยกกระชับผิว เป็นต้น

ใช้ครีมทาหน้าฟื้นบำรุงตอนกลางวัน

เมื่อเตรียมผิวเรียบร้อยแล้ว ครีมทาหน้าที่ควรใช้ต่อคือ มอยเจอร์ไรเซอร์ ที่ช่วยเติมเต็มร่องลึกของผิวให้ดูอ่อนเยาว์ หรือทีเรียกกันติดปากว่า Day Cream นั่นเอง เป็นครีมสำหรับทาทุกเช้า เพื่อฟื้นบำรุงและคืนความยืดหยุ่นให้ผิว ทำให้ริ้วรอยจางลง ร่องลึกตื้นขึ้น และถ้าอยากให้หน้าอ่อนเยาว์ไปพร้อมกับความสวยเป๊ะตลอดวัน อาจมองเป็นสูตรที่ช่วยเพิ่มความเปล่งประกาย และความอิ่มเอิบให้ผิวด้วยก็ได้

ส่วนประกอบที่ควรมองหาในครีมฟื้นบำรุงช่วงกลางวัน หลัก ๆ เลย คือ Pueraria Lobata พืชท้องถิ่นของจีนและญี่ปุ่น ที่ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์สารในโครงสร้างผิว ทำให้ผิวกระชับขึ้น และริ้วรอยจางลงได้ Hibiscus (พู่ระหง) ช่วยให้ผิวดูละเอียดพร้อมบูสต์ผิวโกลว์ Tetrapeptide ที่มีคุณสมบัติลดเลือนริ้วรอย และทำให้ผิวอิ่มเอิบมากยิ่งขึ้น White Horehound ปกป้องผิวจากมลภาวะที่เป็นอันตราย Succory Dock-Cress พืชที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว

เสริมเกราะให้ผิวด้วยครีมทาหน้าแบบกันแดด

            ขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะไปถึงการแต่งหน้า อย่าลืมเสริมเกราะให้ผิวด้วยครีมกันแดด เพื่อป้องกันรังสียูวี แสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ รวมถึงมลภาวะอื่น ๆ ที่อาจทำร้ายผิวและความชุ่มชื้นของผิวได้โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นครีมกันแดดที่ดีนอกจากจะมีสารป้องกันแสงแดดแล้ว ควรมีสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นด้วย เช่น Mango Butter (สารสกัดจากเนื้อในเมล็ดมะม่วง) Leaf of Life และ Furcellaria

เติมพลังให้ผิวก่อนเข้านอนด้วยครีมทาหน้าแบบไนท์

            ก่อนเข้านอนก็ถือเป็นอีกเวลาสำคัญที่ไม่ควรละเลยการใช้ครีมทาหน้า อย่างน้อย ๆ ควรทาโลชั่นเตรียมผิวเหมือนช่วงเช้า และปิดท้ายด้วยครีมสูตรกลางคืน (Night Cream) เพื่อเพิ่มการฟื้นบำรุงผิวให้มีประสิทธิมากยิ่งขึ้น โดยส่วนประกอบที่ควรมี เช่น Ginkgo Biloba (แปะก๊วย) ที่ช่วยสมานผิว ทำให้ผิวดูมีเลือดฝาด Shea ที่มีสรรพคุณในการฟื้นบำรุงและปกป้องผิว Rock-Rose ช่วยลดจุดด่างดำ เป็นต้น

เคล็ด (ไม่) ลับ อันดับสุดท้าย

            สิ่งสุดท้ายที่จะทำให้ครีมทาหน้าทุกตัวมีประสิทธิภาพดีที่สุด คือการใช้ครบเซ็ทจากแบรนด์เดียว เพราะจะทำให้ผิวหน้าคุ้นชินกับมาตรฐานของครีม ไม่แพ้ง่าย หรือเกิดการระคายเคืองจากการต้องปรับสภาพหน้าตามครีมที่หลากหลาย สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มใช้แบรนด์ไหนดี เราอยากแนะนำผลิตภัณฑ์เกรดพรีเมียมอย่าง CLARINS ผู้นำในตลาดสกินแคร์มาอย่างยาวนาน

Related Post

การเลือกลิปสติก

เลือกลิปสติกถูกสีช่วยเสริมเอกลักษณ์ความงามให้แก่ใบหน้าเลือกลิปสติกถูกสีช่วยเสริมเอกลักษณ์ความงามให้แก่ใบหน้า

ว่ากันด้วยเรื่องของลิปสติก เคยรู้สึกไหมว่าลิปสติกมีผลต่อใบหน้าเรา บางทีผิวของเราอาจไม่เหมาะกับลิปสติกสีนี้ แต่ผิวของคนอื่นทำไมถึงทาแล้วดูเหมาะ ดูสวยกับสีนี้จัง ซึ่งมีความแตกต่างกันอยู่ เราสามารถเลือกสีลิปสติกให้ตรงกับผิวของเราได้ ซึ่งมันจะส่งอิทธิพลต่อใบหน้าของเรามาก ๆ ให้ดูดีมากกว่าเดิมหากเราเลือกสีลิปสติกให้ถูกสี ในวันนี้เราเลยจะพาไปดูเฉดสีของลิปสติกว่าผิวอย่างเรานั้นเหมาะกับลิปสติกสีเฉดไหนกันมากกว่า ลิปสติกเฉดสีไหนที่เหมาะกับผิวของเรา 1.สีลิปสติกที่เหมาะกับคนผิวขาว คนสีผิวนี้มักจะได้เปรียบกว่าผิวสีอื่น ๆ เพราะดูเหมือนว่าจะใช้ลิปสติกเฉดสีไหนก็ได้เลย เข้ม กลาง อ่อน สามารถเลือกใช้ได้ให้ถูกต้องตามกาลเทศะและสถานการณ์ ในสถานที่ต่าง ๆ ที่เราไป โดยส่วนใหญ่แล้วนอกจากโทนสีชมพูที่เป็นยอดนิยม ก็ยังมีสีลิปสติกโทนสีส้มที่วามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์เช่นกัน ส่วนผิวขาวโทนขาวเหลือง เป็นสาวผิวขาว จะเหมาะกับลิปสติกโทนชมพู ส้ม น้ำตาล

ความงามของผู้หญิง

ปรับสไตล์ความงามให้เรียบหรูกว่าเดิมปรับสไตล์ความงามให้เรียบหรูกว่าเดิม

ปรับสไตล์ความงามให้เรียบหรูกว่าเดิม             ไม่นับว่าการที่ผู้หญิงจะปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ส่วนใหญ่แล้วมักจะเริ่มมาจากความสวยงามหรือสิ่งใกล้ตัวที่ง่ายต่อการเปลี่ยนแปลงและจับต้องได้ ลองคิดดูว่าถ้าแค่เปลี่ยนการแต่งตัวเพียงแค่เรื่องเดียวก็สามารถเปลี่ยนในเรื่องของการใช้ชีวิตหรือสไตล์ของตัวเองออกไปได้อีกหลายแบบเลยทีเดียว  “ความงาม สิ่งที่สร้างสรรค์ได้ด้วยมือ” ในบรรดาผู้หญิงมากกว่า 90% ขึ้นไปรู้กันดีอยู่แล้วว่าเรื่องของความสวยงามที่ว่านั้นไม่ได้หมายถึงเพียงแค่เรื่องทั่วๆไปแต่หมายถึงการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่จะทำให้ดูดีขึ้น โดยวิธีก็มีอยู่ไม่รู้เว้ยแต่ถ้าอยากจะเน้นเรื่องของการทำให้ตัวเองดูดี มีดังนี้ เรื่องของผมเป็นเรื่องใหญ่             สำหรับผู้ชายอาจจะไม่เท่าไหร่เพราะแค่การเซ็ตผมเป็นก็เปลี่ยนลุคหรือเปลี่ยนสไตล์ได้ ประเด็นอยู่ตรงที่ว่าในมุมของคนที่เป็นผู้หญิงถึงแม้ว่าเราจะใส่ใจรายละเอียดเรื่องราวต่างๆมากมายแค่ไหน แต่สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุดอย่างผมนับว่าเป็นเรื่องยากในการที่จะจัดการให้เรียบร้อยหรือดูแล ถ้าขนาดนี้แล้วถ้าจะเอาแบบที่ง่ายที่สุดพยายามทำให้ผมเรียบ ขอด้วยสไตล์หรือรูปของผู้หญิงที่ต้องการจะแต่งตัวให้ดูดีมีระดับส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องของทรงผมที่เป็นผมเรียบตรงมากกว่าการทำให้ผมดูยุ่ง หากว่าใครได้มีโอกาสมอง Reference ของสาวๆฝั่งยุโรปจะเห็นเลยว่า เวลาที่ทำทรงผมออกงานต่างๆจะใช้เป็นผมเลือกตรงหรืออาจจะเป็นการม้วนเก็บมวยผมแบบเรียบๆไม่ได้ทำให้ยุ่ง พร้อมเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมดูเรียบการขับสัดส่วนต่างๆบนใบหน้าไม่ว่าจะเป็นตา ปากหรือว่าจมูก จะทำให้ดูโดดเด่นขึ้น แต่งหน้าแบบมินิมอล             แนะนำว่าถ้าอยากที่จะแต่งหน้าจริงๆสำหรับการแต่งตัวแบบเน้นมีระดับ ควรที่จะแต่งหน้าให้เป็นแบบมินิมอลมากกว่าการแต่งแต้มสีสันลงไปบนใบหน้าเยอะๆ

เรือนไทยแต่งงาน

ของงานแต่ง “เลือกสีอย่างไร” ให้ปังกับงานแต่งของตัวเอง ของงานแต่ง “เลือกสีอย่างไร” ให้ปังกับงานแต่งของตัวเอง 

เชื่อว่าหลายคนนั้นอาจจะกำลังเข้าสู่ช่วงที่กำลังจะแต่งงาน หรือ กำลังจะเข้าสู่ ช่วงกำลังจะแพลนเข้าสู่ช่วงการแต่งงานและเชื่อว่าหลายคนนั้นอาจจะกำลังคิดเรื่องของ ธีมงานแต่งอยู่ ดังนั้นในบทความนี้เราอยากจะขอพูดถึงเรื่องของ “สี” สีในงานแต่ง นั้นเราควรเลือกสีอย่างไร และ ในเรื่องของสีนั้นเราควรจะแต่งสีอย่างไรเพื่อให้งานแต่งของเรานั้นปัง และแต่งแบบไหนไม่ให้สีนั้นตีกันนะครับ   ในงานแต่งเราไม่ควรเลือกสีที่มากกว่า 4 สี   ในการแต่งงานนั้นเชื่อว่าหลายคนนั้นอาจจะมีสีในใจไว้แล้วแต่ในการเลือกสีเพื่อใช้ในแต่งนั้นการตกแต่งานของเรานั้นไม่ควรจะใช้สีที่มากกว่า 4 สีนะครับเพราะว่าถ้าหากจะเลือกใช้สีที่มากกว่า 4 สีนั้นจะเลือกใช้สีแมตซ์กันยากเกินไปและสีนั้นอาจจะไปคนลพทิศคนละทางกันมากจนเกินไป ดังนั้นให้เราเลือกใช้สีเพียงแค่ 4 สีจะดีกว่านะครับ และไม่ควรใช้สีที่ไม่เข้ากันหรือไม่แมตซ์กันนะครับไม่อย่างนั้นจะทำให้ลำบากในการจัดธีมถ่ายรูป ได้ลำบากนะครับ ดังนั้นสีที่เราควรเลือกใช้ควรเป็นสีในทิศทางเดียวกันจะดีกว่านะครับ   สีของสถานที่จัดงานต้องอย่าลืม   อีกเรื่องที่สำคัญนั้นคือในเรื่องของ “สถานที่จัดงาน” ไม่ว่าจะเป็น เรือนไทยแต่งงาน หรือสถานที่จัดงานอื่น ๆ