Elizabeth Street Cosmetics Lifestyle วิธีดูแลเครื่องซักผ้า ยืดอายุการใช้งานได้แน่นอนถ้าทำตามวิธีการเหล่านี้

วิธีดูแลเครื่องซักผ้า ยืดอายุการใช้งานได้แน่นอนถ้าทำตามวิธีการเหล่านี้

วิธีดูแลเครื่องซักผ้า

                ตั้งแต่มีเครื่องซักผ้าเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับชีวิต ทำให้การซักผ้าเป็นเรื่องง่ายขึ้นเยอะ เพียงแค่หยิบผ้าใส่ถังซัก เติมผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้า แล้วกดปุ่มให้เครื่องทำงาน ใช้เวลาเพียงไม่นานผ้าทั้งตะกร้าก็ถูกซักเสร็จหมดเรียบร้อย นับว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยทุ่นแรงให้เราได้เยอะมาก ๆ ไม่ต้องเสียเวลากับการซักผ้าด้วยมืออีกต่อไป แต่เราจะใช้งานเครื่องซักผ้าอย่างเดียวโดยไม่ดูแลรักษา ใช้แล้วปล่อยทิ้งขว้างไม่สนใจ ก็อาจจะทำให้เครื่องซักผ้าอำลาจากเราไปก่อนกำหนด เมื่อเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่ถูกใจมาใช้งานแล้ว ก็อย่าลืมคำนึงถึงวิธีดูแลเครื่องซักผ้าควบคู่กันไปด้วย เราจะได้มีเครื่องซักผ้าที่มีประสิทธิภาพดีอยู่คู่กับบ้านเราไปนาน ๆ

4 เคล็ดลับดูแลเครื่องซักผ้าหมดกังวลเครื่องพังกลางอากาศ

                อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกประเภทย่อมก็ต้องการการดูแลรักษาและการซ่อมบำรุงตามรอบการใช้งานที่ต่างกัน สำหรับใครที่มีเครื่องซักผ้าติดบ้านอยู่แล้ว คงต้องการที่จะใช้เจ้าเครื่องนี้ไปนาน ๆ เพราะด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงจึงไม่ดีนักที่จะซื้อซ้ำบ่อย ๆ ถ้าอยากให้เครื่องซักผ้าใช้ได้ทนทาน เคล็ดลับวิธีดูแลเครื่องซักผ้าเหล่านี้ช่วยคุณได้แน่นอน

1. ก่อนซักทุกครั้งอย่าลืมนำเหรียญ หรือวัสดุของแข็งที่อยู่ในเสื้อผ้าออกก่อนซัก

                เสื้อผ้าที่ถูกถอดออกมาแล้วโยนลงตะกร้าไว้อย่างรีบ ๆ หรือบางทีที่กลับจากทำงานมาเหนื่อย ๆ ก็ใส่ลงถังซักผ้าไปเลยจนลืมนำเหรียญ ปากกา ไฟแช็ก หรือของแข็งชิ้นเล็กที่ชอบพกติดตัวออกมาก่อน รู้หรือไม่ว่าสิ่งของเหล่านี้แหละที่จะทำให้เครื่องซักผ้าของเราพังเร็ว เป็นภัยเงียบที่เราไม่ควรละเลยได้ หากมีเหรียญเข้าไปติดในเครื่องซักผ้า ก็อาจจะทำให้ชิ้นส่วนของถังหรือกลไกการทำงานเกิดความเสียหายได้

2. ไม่ใส่ผ้าลงถังมากเกินจนแน่นและเกิดการอัดกันของเสื้อผ้าในถัง

                นอกจากจะทำให้ผ้าซักไม่สะอาดแล้ว การใส่เสื้อผ้าอัดแน่นในถังมากเกินขนาดความจุ ก็จะทำให้เครื่องซักผ้ามีอาการโอเวอร์โหลด ด้วยน้ำหนักของถังซักที่มีมากเกินไปจึงต้องดึงพลังงานมาใช้มากขึ้นเพื่อให้เครื่องซักผ้าสามารถทำงานได้ตามมาตรฐานของเครื่องที่ถูกออกแบบมา อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นด้วย และการที่เครื่องออกแรงซักมากเกินไปก็จะส่งผลให้เครื่องซักผ้าทำงานหนักและพังในที่สุด

3. ทำความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอกสัปดาห์ละครั้ง

                การดูแลความสะอาดของช่องใส่ผงซักฟอกนับว่าเป็นวิธีดูแลเครื่องซักผ้าแบบพื้นฐาน และไม่ควรละเลยไปจากจุดนี้ได้เลย ทุกครั้งที่ซักผ้าเสร็จให้ทำการตรวจสอบสักนิดว่ามีก้อนผงซักฟอกติดค้างอยู่ในช่องดังกล่าวหรือไม่ เพราะเศษผงซักฟอกเก่า ๆ เหล่านี้แหละ ที่เป็นตัวการทำให้เกิดตะกอนอันเป็นสาเหตุของการอุดตันในถังซัก ลองใช้แปรงสีฟันอันเก่ามาขัดออกให้สะอาดทุกครั้งหลังซัก อย่าลืมตรวจสอบช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มอีกจุด แล้วทำความสะอาดไปพร้อมกันด้วยเลยนะ            

4. ล้างเครื่องซักผ้าอย่างน้อยเดือนละครั้ง

                ถึงแม้ว่าเราจะซักผ้าทุกวัน แต่การซักผ้ากับการทำความสะอาดเครื่องก็เป็นการทำงานคนละส่วนกัน หลายท่านคงเคยสงสัยเครื่องซักผ้าที่มีอายุการใช้งานมานานทำไมถึงซักผ้าไม่สะอาดเหมือนตอนที่ซื้อมาใหม่ ๆ นั่นมีสาเหตุเพราะเศษฝุ่น หรือตะกอนที่ติดมากับเสื้อผ้า หรือปะปนมากับน้ำไม่สามารถระบายออกไปพร้อมกับน้ำทิ้งได้หมด แล้วเกิดการสะสมเรื่อย ๆ อยู่ในถังซัก วิธีดูแลเครื่องซักผ้าให้สะอาดทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่เติมผงโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 – 2 ช้อนโต๊ะลงในช่องใส่ผงซักฟอก ตามด้วยน้ำส้มสายชู 2 – 3 ถ้วย ผสมพร้อมน้ำอุ่น 1 – 2 ลิตร ใส่น้ำให้เต็มถัง ปั่น 3 นาทีแล้วหยุดเครื่องทิ้งไว้หนึ่งคืน ก็จะทำให้สิ่งสกปรกที่ติดอยู่ในถังมานานหลุดออกมาได้

                ด้วยวิธีการที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น หากนำไปปฏิบัติได้ทั้งหมดก็จะสามารถยืดอายุเครื่องซักผ้าให้คงอยู่กับบ้านของเรานานขึ้น วิธีดูแลเครื่องซักผ้านั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามจริง ๆ หากลืมใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ไป เครื่องซักผ้าที่ซื้อมาใหม่อาจเสียหายและเสื่อมสภาพไปก่อนเวลาอันควร

Related Post

เรือนไทยแต่งงาน

ของงานแต่ง “เลือกสีอย่างไร” ให้ปังกับงานแต่งของตัวเอง ของงานแต่ง “เลือกสีอย่างไร” ให้ปังกับงานแต่งของตัวเอง 

เชื่อว่าหลายคนนั้นอาจจะกำลังเข้าสู่ช่วงที่กำลังจะแต่งงาน หรือ กำลังจะเข้าสู่ ช่วงกำลังจะแพลนเข้าสู่ช่วงการแต่งงานและเชื่อว่าหลายคนนั้นอาจจะกำลังคิดเรื่องของ ธีมงานแต่งอยู่ ดังนั้นในบทความนี้เราอยากจะขอพูดถึงเรื่องของ “สี” สีในงานแต่ง นั้นเราควรเลือกสีอย่างไร และ ในเรื่องของสีนั้นเราควรจะแต่งสีอย่างไรเพื่อให้งานแต่งของเรานั้นปัง และแต่งแบบไหนไม่ให้สีนั้นตีกันนะครับ   ในงานแต่งเราไม่ควรเลือกสีที่มากกว่า 4 สี   ในการแต่งงานนั้นเชื่อว่าหลายคนนั้นอาจจะมีสีในใจไว้แล้วแต่ในการเลือกสีเพื่อใช้ในแต่งนั้นการตกแต่งานของเรานั้นไม่ควรจะใช้สีที่มากกว่า 4 สีนะครับเพราะว่าถ้าหากจะเลือกใช้สีที่มากกว่า 4 สีนั้นจะเลือกใช้สีแมตซ์กันยากเกินไปและสีนั้นอาจจะไปคนลพทิศคนละทางกันมากจนเกินไป ดังนั้นให้เราเลือกใช้สีเพียงแค่ 4 สีจะดีกว่านะครับ และไม่ควรใช้สีที่ไม่เข้ากันหรือไม่แมตซ์กันนะครับไม่อย่างนั้นจะทำให้ลำบากในการจัดธีมถ่ายรูป ได้ลำบากนะครับ ดังนั้นสีที่เราควรเลือกใช้ควรเป็นสีในทิศทางเดียวกันจะดีกว่านะครับ   สีของสถานที่จัดงานต้องอย่าลืม   อีกเรื่องที่สำคัญนั้นคือในเรื่องของ “สถานที่จัดงาน” ไม่ว่าจะเป็น เรือนไทยแต่งงาน หรือสถานที่จัดงานอื่น ๆ

sms ราคา

บริหารการตลาดด้วย SMS ราคาที่ต่ำกว่า แต่ประสิทธิภาพสูงเกินราคาบริหารการตลาดด้วย SMS ราคาที่ต่ำกว่า แต่ประสิทธิภาพสูงเกินราคา

ในยุคนี้ต้องบอกเลยค่ะว่าการขายของออนไลน์เป็นกระแสที่มาแรงมาก ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า และหลายๆปัจจัยที่ทำให้โลกต้องมีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงพฤติกรรมของผู้คนที่ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อความอยู่รอดในยุคนี้ให้ได้นั้น ได้ส่งผลให้โลกออนไลน์ได้มีบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันทุกคนจำเป็นต้องเลี่ยงการออกไปนอกบ้าน จึงต้องใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านมากขึ้น เปลี่ยนมาทำงานที่บ้าน เรียนที่บ้าน รวมถึงการสั่งซื้อของออนไลน์กันมากขึ้นด้วย หรือแม้แต่การสั่งอาหารมาทานที่บ้านโดยบริการ Delivery ต่างๆ เป็นต้น ในส่วนของผู้ประกอบการเองก็จำเป็นต้องปรับใช้กลยุทธ์การตลาดเพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้นและเหมาะสมกับยุคสถานการณ์เช่นนี้ด้วย อย่างการบริหารการตลาดด้วยระบบ SMS ราคาที่ต่ำกว่าช่องทางการตลาดอื่นๆ แต่ประสิทธิภาพสูงเกินราคา ที่จะสามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณอยู่รอดได้ในยุคนี้นั่นเองค่ะ ระบบ SMS Marketing นับว่าเป็นช่องทางการตลาดที่มีความสำคัญมากในยุคที่มือถือเป็นเสมือนอวัยวะหนึ่งในร่างกายของมนุษย์เรา ชนิดที่เรียกว่าไม่สามารถขาดได้เลย ในการทำธุรกิจหากจำเป็นต้องมีการโปรโมทแบรนด์สินค้าหรือโฆษณาธุรกิจของเรา รวมไปถึงการเลือกช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าแล้วล่ะก็ การเลือกใช้การส่ง SMS ไปยังมือถือของกลุ่มลูกค้าโดยตรงจึงถือว่าเป็นวิธีที่ได้ผลดีมาก

ท็อปเปอร์

ท็อปเปอร์คืออะไร กับคำค้นหายอดฮิตในGoogleท็อปเปอร์คืออะไร กับคำค้นหายอดฮิตในGoogle

ท็อปเปอร์ Topper คำๆนี้อาจจะมีบางคนที่ไม่รู้จักและไม่เคยได้ยินมาก่อน ซึ่งได้มีการเรียนรู้ โดยการค้นคว้าในGoogle เรามาดูกันว่าคำค้นหายอดฮิตที่เกี่ยวกับท็อปเปอร์นั้นคืออะไร มาเรียนรู้ความหมายให้ครบจบในบทความเดียว โดยเริ่มตั้งแต่คำค้นหายอดฮิตที่1-5จากการค้นหาในGoogleปี2020ที่มีหัวข้อkeywordว่า’ท็อปเปอร์’  1.ท็อปเปอร์ยางพารา  ท็อปเปอร์ยางพารานั้นเราจะต้องรู้ก่อนว่ายางพาราส่วนใหญ่ที่นำมาทำท็อปเปอร์นั้นจะต้องมีการนำมาผ่านกรรมวิธีเฉพาะเพื่อให้เกิดความหนาแน่น รองรับแนวส่วนเว้าส่วนโค้งได้เป็นอย่างดีและที่นอนท็อปเปอร์ยางพาราจะเปลี่ยนรูปตามแนวโค้งให้เหมาะสมกับสรีระร่างกายของคนเรา หากเป็นการทำจากน้ำยางพาราแท้100%จะมีอายุการใช้งานได้ยาวนานถึง10ปีโดยสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี คืนสภาพได้ดีกว่าที่อื่นซึ่งตามท้องตลาดมักมีการนำท็อปเปอร์แบบยางพาราไม่แท้มาจำหน่ายถึง3แบบคือ 1.ยางพาราผสมสารสังเคราะห์ 2. ยางพาราผสมแป้ง 3.ยางพาราอัด โดยส่วนใหญ่แล้วมาตรฐานยางพารา2นิ้วนั้นจะเหมาะกับการวางบนที่นอนเดิมที่มีการยุบตัวเล็กน้อย ถ้าเป็นแบบ3-4นิ้วจะให้ความรู้สึกสบายใกล้เคียงกับการนอนบนที่นอนใหญ่ ในส่วนของคุณสมบัติของยางพาราแท้นั้นถ้าผลิตจากธรรมชาติแท้ปลอดสารเคมีจะมีการป้องกันไรฝุ่นและแบคทีเรียให้ไปในตัว สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี ลดอาการปวดเมื่อย ขนย้ายสะดวกและน้ำหนักเบา หากเมื่อลองจับยางพาราของแท้นั้นจะต้องหย่อน ย้วย เมื่อจับตั้งหรือยกขึ้นจะไม่สามารถวางตั้งฉากกับพื้นได้ สามารถพับได้หรือม้วนได้ หากแกะเชือกออกมาที่นอนก็จะดีดเด้งกับผิวสัมผัส จะมีความนุ่ม อาจมีรูหรือไม่มีก็ได้ โดยสีของยางควรเป็นสีเหลืองไข่ไก่  2.ท็อปเปอร์คืออะไร  ท็อปเปอร์คือแผ่นรองที่นอนเพื่อเพิ่มความหนาเพิ่มการรองรับแรงกระแทกปัจจุบันทำจากหลายวัสดุด้วยกันแต่ท็อปเปอร์คุณสมบัติจะแตกต่างกับผ้ารองเปื้อนอย่าเข้าใจผิดเด็ดขาด ประโยชน์ของ copper นั้น จะช่วยให้นอนหลับสบายช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับที่นอนก่อนที่จะเลือกซื้อท็อปเปอร์นอกจากราคาและความนุ่มสบายที่เรามักจะเอาเป็นหลักอยู่แล้วต้องดูว่ามีการรองรับสรีระที่ดีไหมลดอาการปวดหลังหรือไม่ หนาแน่นมากแค่ไหนซึ่งในปัจจุบันท็อปเปอร์นั้นมีหลากหลายยี่ห้อมาก เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะรู้ราคาของมัน